เอเจนซีส์ – หนังสือพิมพ์ชื่อดังสหรัฐฯรายงานคฤหาสถ์มาราลาโกในรัฐฟลอริดาของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ โดน FBI บุกเมื่อวันจันทร์(8 ส.ค)เพราะต้องการค้นหาเอกสารลับอาวุธนิวเคลียร์หลังได้รับแจ้งจากเบาะแสแหล่งข่าวใกล้ชิดอดีตผู้นำสหรัฐฯว่า เอกสารลับทำเนียบขาวยังถูกนำกลับออกไปไม่หมด รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ เมอร์ริค การ์แลนด์ เปิดเผยเป็นคนอนุมัติด้วยตัวเองให้ FBI บุกเข้าค้นบ้านทรัมป์
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันศุกร์(12 ส.ค)ว่า หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานค่ำวันพฤหัสบดี(11)โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวใกล้ชิดในการสอบสวนว่า มีความเชื่อว่าเอกสารลับอาวุธนิวเคลียร์รวมอยู่ในสิ่งที่เจ้าหน้าที่ FBI ต้องการค้นหาภายในคฤหาสน์มาราลาโก(Mar-A-Lago)ในการบุกค้นวันจันทร์(8) แต่ทว่าไม่ได้มีการระบุออกมาอย่างชัดเจนว่า เป็นเอกสารลับด้านใดหรือเกี่ยวพันกับคลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯหรือของชาติอื่น
รายงานเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังรัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ เมอร์ริค การ์แลนด์ (Merrick Garland) เปิดเผยว่า เขาเป็นผู้อนุญาตการบุกค้นตามคำขอของรัฐบาลกลางสหรัฐฯด้วยตัวเองสำหรับหมายค้นและเปิดเผยว่า ก่อนหน้ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯได้ร้องขอศาลรัฐฟลอริดาให้ทำการเปิดเผยหมายค้นนี้โดยชี้ไปว่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้ร้องขอด้วยตัวเองให้มีการเปิดเผยออกมา
การ์แลนด์อ้างโดยให้เหตุผลว่า คดีนี้ประชาชนสหรัฐฯให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
ซึ่งในคืนดึกวันพฤหัสบดี(11) ทรัมป์ได้ออกแถลงการณ์ออกมาว่า เขาจะไม่ขัดขวาง “แต่จะสนับสนุนให้มีการเผยแพร่เอกสารเหล่านี้ทันที" ที่เกี่ยวข้องในสิ่งที่เขาเรียกว่า “ไม่มีความเป็นอเมริกัน ไม่ชอบธรรม และเป็นการบุกค้นที่ไม่จำเป็นและการบุกรุก...เปิดเผยเอกสารเหล่านี้เดี๋ยวนี้!”
รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯถูกกัดดันให้ต้องออกมาเปิดเผยเหตุผลการบุกหลังถูกกระแสตีกลับในการบุกคฤหาสถน์มาราลาโก เมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ที่กระแสสังคมชี้ไปว่าอาจมีเป็นแรงูงใจการเมืองอยู่เบื้องหลัง ทั้งนี้พบว่าในวันพฤหัสบดี(11) มีชายคนหนึ่งพยายามบุกสำนักงาน FBI ประจำรัฐซินซิแนติ ถูกตำรวจยิงและสังหารคาที่หลังพยายามหนี
เดอะการ์เดียนชี้ว่า การปรากฎอยู่ของเอกสารลับนิวเคลียร์ภายในบ้านพักส่วนตัวทรัมป์อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้การ์แลนด์ยอมเอาตัวเข้าแลกด้วยการสั่งให้ FBI บุกค้นอดีตบ้านพักผู้นำสหรัฐฯเนื่องมาจากเห็นว่าการนำเอาเอกสารลับออกมาเป็นเหตุผลด้านความมั่นคงประเทศที่มีความสำคัญมากกว่า
ทั้งนี้ใน “ความโกรธ”(Rage) หนังสือแฉทรัมป์ครั้งประวัติศาสตร์ของนักข่าวอเมริกันชื่อดัง บ็อบ วูดเวิร์ด( Bob Woodward) พบว่าเขาได้เปิดเผยว่า ทรัมป์เคยพูดกับเขาว่า “พวกเรามีของที่คุณไม่เคยเห็นหรือเคยได้ยินมาก่อน พวกเรามีของที่ปูติน(ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน)และสี(ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง)ไม่เคยได้ยินมาก่อน ไม่มีใครเลยซึ่งสิ่งที่พวกเรามีนั้นมันน่าทึ่งมาก”
วูดเวิร์ดกล่าวว่า ในภายหลังเขาได้รับการบอกว่าสหรัฐฯมีอาวุธระบบใหม่ที่ไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯรู้สึกประหลาดใจที่ทรัมป์ได้เปิดเผยข้อเท็จจริงออกมา
“ข้อมูลเกี่ยวกับการออกแบบอาวุธนิวเคลียร์ที่เรียกว่าข้อมูลจำกัด(Restricted Data)และมันเป็นความลับมาตั้งแต่แรก” ที่หมายความว่า มันจะถูกปิดเป็นความลับจนกว่าจะได้รับอนุญาตให้ได้รับการเปิดเผย โรเฟอร์(Rofer)ซึ่งเป็นผู้เขียนบล็อก Nuclear Diner กล่าวผ่านทวิตเตอร์และเธอได้เสริมต่อว่า “แต่ทว่าไม่มีเหตุผลสำหรับประธานาธิบดีสหรัฐฯในการครอบครองข้อมูลการออกแบบอาวุธนิวเคลียร์เท่าที่ดิฉันเห็น”
ทั้งนี้เอกสารเกี่ยวกับนิวเคลียร์ที่อดีตผู้นำสหรัฐฯมักเข้าถึงคือเป็นรายงานปิดลับเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ในด้านความสามารถของอาวุธนิวเคลียร์สหรัฐฯและด้านนโยบาย
ฟ็อบส์สื่อของสหรัฐฯรายงานว่า บุคคลที่ให้เบาะแส FBI เกี่ยวกับเอกสารนิวเคลียร์นั้นเชื่อว่าเป็นผู้ช่วยใกล้ชิดของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดได้เปิดเผยกับผู้สอบสวนว่า อาจจะยังคงมีเอกสารลับหลงเหลืออยู่ในรีสอร์ทมาราลาโก ซึ่งวอลสตรีทเจอร์นัลและนิวสวีครายงานเรื่องนี้เป็นครั้งแรกในวันพฤหัสบดี(11)
