
นายใหญ่ "ปราสาทสายฟ้า" ประกาศลั่น เกมเปิดบ้านรับมือ "เขี้ยวสมุทร" ต้อง 3 แต้มเท่านั้น เพื่อสานฝันสู่การคว้าโควตาเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ให้ได้
วันที่ 26 พ.ย.63 ความพร้อมก่อนการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก นัดที่ 13 คู่ระหว่าง "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 8 จะเปิดสนาม ช้าง อารีนา พบกับ “เขี้ยวสมุทร” สมุทรปราการ ซิตี้ ทีมอันดับ 12 ในวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2563 เวลา 18.30 น.
ข่าวแนะนำ
ปราสาทสายฟ้า เครื่องเริ่มติด หลังชนะมาสองนัดติด โดยล่าสุด บุกไปเอาชนะ สุโขทัย เอฟซี มาได้ถึงถิ่น 3-0 ขณะที่ เขี้ยวสมุทร ฟอร์มยังไม่นิ่ง เมื่อนัดล่าสุดบุกไปสะดุดพ่าย ราชบุรี มิตรผล เอฟซี มา
อเล็กซานเดร กามา หัวหน้าผู้ฝึกสอน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวถึงความพร้อมของทีมว่า "การเจอกับ สมุทรปราการ ถือว่าเป็นอีกเกมที่ยาก แม้เราจะได้เล่นในบ้าน แต่พวกเขาเป็นทีมที่ค่อนข้างอันตราย และสวนกลับได้น่ากลัว นักเตะของพวกเขาหลายคนมีความเร็วดีมาก"
"ส่วนทีมของเราเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น หลังจากที่หลายคนเริ่มเข้าใจสิ่งที่ผมถ่ายทอด และชนะมา 3 เกมติด แถมยังทำประตูได้มากมาย มันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่สำหรับเกมนี้เรารู้ดีว่านี่ไม่ใช่เกมที่ง่าย เราต้องโฟกัสไปทีละนัด ทำหน้าที่ของเรา และพยายามเก็บสามแต้มในบ้านให้ได้"
"เป้าหมายของบุรีรัมย์ เราไม่ได้มองแค่การพยายามคว้าโควตาไปเล่นในเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก อย่างเดียว ผมรู้ดีว่า ทีมของเรามีเป้าหมายใหญ่เสมอ เพราะผมเองก็เคยทำงานที่นี่มานาน และการกลับมาครั้งนี้ สิ่งสำคัญคือเราต้องการไปให้ถึงเป้าหมายสูงสุด"
"นักเตะทุกคนเริ่มมีความกระหาย เรากำลังพยายามยกระดับ และกำลังมั่นใจ นอกจากนี้ทุกคนยังเล่นฟุตบอลอย่างมีความสุข แน่นอนการไปยืนบนหัวตารางคือเป้าหมายของเรา แต่ตอนนี้เราต้องมองเกมต่อเกม พยายามนำบุรีรัมย์ที่ทุกคนรู้จักกลับมาอีกครั้ง"
"การจะทำให้ บุรีรัมย์ กลับมาน่ากลัว มันต้องใช้เวลา ตอนนี้ผมเพิ่งคุมทีมได้ 1 เดือน ทุกคนในทีมรู้ดีว่าเราต้องมีอันดับที่ดีกว่านี้ มันไม่มีเกมไหนหรอกที่ผมพอใจแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ต่อให้เราชนะ 10 เกมติดต่อกัน แต่ละเกมเราก็ต้องมองหาข้อผิดพลาด และสิ่งที่ต้องปรับปรุงเสมอ"
นอกจากนี้ เฮดโค้ชปราสาทสายฟ้า ยังพูดถึงฟอร์มของ ศุภชัย ใจเด็ด ที่กลับมาทำประตูได้อย่างต่อเนื่องว่า "ตอนนี้เขากำลังมีความมั่นใจ เราแนะนำเขาในการเคลื่อนที่ การยืนตำแหน่งที่ถูกต้อง ซึ่งเขาช่วยทีมได้เยอะมาก พยายามให้เขาผ่อนคลาย สิ่งสำคัญคือความมั่นใจ ผมร่วมงานกับเขาในทีมชาติมาแล้ว และรู้ว่าเขามีคุณภาพมากแค่ไหน สิ่งสำคัญคือความมั่นใจ และการให้คำแนะนำแก่เขา เขาทำได้ดี แต่ผมเชื่อว่าเขายังทำได้ดีมากกว่านี้ และผมเชื่อว่าเขาจะเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทยได้".
อ่านเพิ่มเติม...